Logistics

Manufacturing

Retail

Supply Chain

ซัพพลายเชน

กลยุทธ์ การจัดการซัพพลายเชน ยุคใหม่
ปลดล็อกห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแพลตฟอร์มซัพพลายเชน

หลังจากเกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก ตระหนักถึง ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน หรือ Supply Chain Risk ที่จะส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจต่าง ๆ จึงเริ่มมองหาแนวทางการรับมือ โดยการหากลยุทธ์​​การจัดการซัพพลายเชนใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น คล่องตัวให้กับธุรกิจ เช่น เพิ่มทางเลือกในการสั่งซื้อวัตถุดิบและเพิ่มช่องทางการขนส่งโดยการเพิ่มแหล่งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายวัตถุดิบ, กระโดดเข้าสู่ออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ผ่าน E-Commerce หรือ E-Marketplace เป็นต้น

การจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management)

การจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management) คือ ระบบการบริหารจัดการและเชื่อมโยงเครือข่าย ตั้งแต่ ซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย โดยมีการเชื่อมโยงระบบข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบ สินค้าและบริการ ต้นทุน การส่งมอบ เป็นต้น เพื่อส่งมอบสินค้าหรือให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งได้ตรงตามเวลาและความต้องการ

 

การใช้ AI เพื่อการตัดสินใจเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการบริหารจัดการ Supply Chain เนื่องจากในยุคปัจจุบัน การเชื่อมโยงกระบวนการทางธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบริษัทเดียวอีกต่อไป แต่จะมีลักษณะที่เป็นเครือข่าย (Network Relation) เป็นการเชื่อมโยงระบบการทำงานข้ามบริษัทจนกลายเป็นการทำงานในลักษณะของ Supply Chain Management เชื่อมโยงกิจกรรมทางธุรกิจตั้งแต่ Suppliers ไปจนถึง Consumer

โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์ วางแผน สนับสนุนในการตัดสินใจ และการบริหารจัดการ เช่น การวางแผนการจัดหาหรือสั่งซื้ออัตโนมัติ การบริหารจัดการการผลิตแบบเรียลไทม์ การบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การติดตามการขนส่งที่แม่นยำ การส่งมอบสินค้าและบริการที่ตรงเวลา การติดตามข้อมูลและเอกสาร เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมทั้งสามารถการคาดการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ความต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6 กลยุทธ์การจัดการซัพพลายเชน

1.) เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ตลอดทั้งซัพพลายเชน ต้องมีข้อมูลที่อัปเดตและเรียกดูได้แบบเรียลไทม์

2.) การไหลของซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการลูกค้า เช่น สินค้าถูกต้อง ตรงตามความต้องการ และตรงเวลา เป็นต้น

3.) ใช้การขนส่งแบบ Cross-Docking เพื่อลดเวลาการเก็บสินค้าไว้ในคลัง โดยใช้คลังสินค้าเป็นเพียงจุดกระจายสินค้าไปยังลูกค้าแต่ละราย จำนวนที่เข้าเท่ากับจำนวนที่ออกตามความต้องการของลูกค้าSAP Business One มี Business Process ที่มีมาตรฐานระดับสากล และมีเสถียรภาพสูง พัฒนาโดย SAP บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สัญชาติเยอรมัน เป็นที่ยอมรับมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอีกทั้งยังรองรับทางการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและธุรกิจให้ทันต่อสถานการณ์

4.) ใช้การขนส่งแบบ Direct ส่งถี่ ส่งตรง ส่งน้อย เป็นการลด Lead Time โดยใช้วิธีการส่งที่บ่อยขึ้น และส่งในจำนวนที่น้อยตามความต้องการของลูกค้า ไม่ต้องรอออเดอร์ขนาดใหญ่ถึงส่ง เพื่อเป็นการลดการรอคอยและการจัดเก็บสต๊อกในปริมาณที่มาก

5.) ลดจำนวนสต๊อกสินค้าทั้งซัพพลายเชน โดยการวิเคราะห์สต๊อกร่วมกัน แบบ Just-in-Time เป็นการบริหารซัพพลายเชนที่ไม่ใช่การบริหารเฉพาะในองค์กรตัวเอง แต่ทำพร้อมกันทั้งระบบ เพื่อไม่เป็นการผลักภาระสต๊อกสินค้าไปยังซัพพลายเออร์ หรือ ผู้แทนจำหน่ายสินค้า เพราะหากบริหารเฉพาะในองค์กร ภาพรวมของสต๊อกสินค้าทั้งซัพพลายเชนจะไม่ได้ลดลง เพียงแต่ถูกผลักภาระไปที่อื่นแทน

6.) ลดค่าใช้จ่าย โดยเน้นการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบหรือสินค้าที่มีคุณภาพอย่างคุ้มค่าที่สุดในเวลาที่เหมาะสม ช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจ

ซึ่งในทั้ง 6 กลยุทธ์ของการจัดการซัพพลายเชน ธุรกิจต่างๆสามารถเลือกปรับได้ตามความเหมาะสม และข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการ ซึ่งจะสามารถทำให้ช่วยตอบโจทย์การจัดการซัพพลายเชนได้เป็นอย่างดี

ปลดล็อกห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแพลตฟอร์มซัพพลายเชนแบบครบวงจรของ Blue Yonder

 

Blue Yonder ผู้นำด้านระบบ Supply Chain Planning Solution 2021 จัดอันดับโดย Magic Quadrant ของ Gartner เป็นซอฟต์แวร์ซัพพลายเชนอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Machine Learning สามารถวางแผน บริหารจัดการ คาดการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น พร้อมเสนอคำแนะนำสำหรับการปรับเปลี่ยนแผนและการบริหารจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain) ของธุรกิจทุกส่วนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ

Blue Yonder มี Luminate Platform ซึ่งเป็นระบบวางแผน การจัดการซัพพลายเชน ที่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบดิจิทัล ช่วยให้แบรนด์ระดับโลกสามารถใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นในซัพพลายเชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการบูรณาการ ประมวลผล และดำเนินการ โดนให้มุมมองธุรกิจแบบ End-to-End เพื่อวางแผนเชิงรุกและมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับลูกค้าของทุกธุรกิจ

Blue Yonder เป็นที่ยอมรับของบริษัทชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเองก็มีหลากหลายบริษัทชั้นนำที่ใช้โซลูชันของ Blue Yonder เข้ามาช่วยในการวางแผนและการบริหารธุรกิจ เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยน้ำทิพย์ และ จำกัด บริษัท โดลไทยแลนด์ จำกัด เป็นต้น

Blue Yonder ครอบคลุมการบริหารจัดการซัพพลายเชนทุกส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น

  • Sales & Operations Planning
  • Supply Planning & Replenishment
  • Production Planning
  • Merchandise Financial Management
  • Inventory Optimization
  • Network Design
    พร้อมทั้งรวม AI, ระบบอัตโนมัติ, อัลกอริทึมขั้นสูง, Big Data และการวิเคราะห์ เพื่อสร้างความสามารถอันทรงพลังในการวางแผนให้กับธุรกิจ ให้สามารถจัดการความซับซ้อนทางธุรกิจและตัดสินใจอย่างเหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ในรูปแบบที่คล่องตัว

ทำไมต้องเลือกวางระบบ Blue Yonder กับ NEXUS

เน็กซัสฯ เป็นพาร์ทเนอร์ของ Blue Yonder หนึ่งเดียวในประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 23 ปี โดยได้ให้คำปรึกษาช่วยพัฒนาระบบ และวางระบบซอฟต์แวร์ (SAP, Blue Yonder) และ Cloud Platforms (SAP, AWS, CSL) เพื่อเพิ่มศักยภาพสนับสนุนการบริหารธุรกิจยุคดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เน็กซัสฯ มีผลงานในการวางระบบซอฟต์แวร์ Blue Yonder ให้กับธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยอย่าง บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด และ บริษัท โดล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น

สนใจระบบ Blue Yonder หรือต้องการปรึกษาการจัดการซัพพลายเชน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
เว็บไซต์ www.nexus-sr.com
อีเมล mkt.th@nexus-sr.com
Line Official Account : @nexus-sr.com
โทรศัพท์ 02-091-1900

Related Articles

SAP S/4HANA ซอฟต์แวร์ ERP สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีสำคัญสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

วิวัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัลได้เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของทุกอุตสาหกรรม ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา...