Search
REP VS Cover

ERP แบบสำเร็จรูป VS แบบเขียนพัฒนาเอง 2 ระบบ แบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจคุณ เรามีคำตอบ

การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) หรือ ระบบบริหารงานทรัพยากรขององค์กร นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการบริหารธุรกิจ เพราะเป็นระบบที่จะมาช่วยเชื่อมต่อการทำงานของฝ่าย หรือแผนกต่างๆ ในธุรกิจให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับพนักงานทั่วไปที่สามารถใช้งาน ตลอดจนไปถึงระดับผู้บริหารระดับสูง ที่สามารถดูรายงาน ยอดขาย รายได้ รายจ่าย ตลอดจนใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า

ซึ่งในปัจจุบัน ระบบแบ่งออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ

  1. แบบสำเร็จรูป (Vendor หรือ Software Vendor)
  2. แบบที่เขียนพัฒนาเอง (In-House Development)

เน็กซัสฯ จะพามาทำความรู้จักกับระบบทั้ง 2 แบบว่าคืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร เพื่อช่วยให้คุณได้รู้จัก และตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากขึ้นหากต้องการที่จะใช้งานในการบริหารธุรกิจ

ระบบแบบสำเร็จรูป คืออะไร?

โปรแกรมแบบสำเร็จรูป คือ โปรแกรมที่บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ (Vendor หรือ Software Vendor) พัฒนาระบบขึ้นมาแบบพร้อมใช้งานได้ทันที โดยมีฟีเจอร์การทำงานที่สามารถปรับใช้ได้ในทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยจะมาในรูปแบบ Package เช่าซื้อ หรือเช่าสิทธิ์การใช้งานระบบตามที่บริษัทได้ทำข้อตกลงระหว่างกัน

ข้อดีของระบบแบบสำเร็จรูป

  1. ลดต้นทุนในการพัฒนาระบบ
  2. ลดระยะเวลาในการขึ้นระบบ ไม่ต้องเริ่มพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่จากศูนย์
  3. สามารถทดลองใช้ระบบ ทดสอบความสามารถฟีเจอร์การทำงานของระบบได้ ช่วยให้เห็นภาพการทำงานจริงได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
  4. เซิร์ฟเวอร์สำหรับฐานข้อมูลจะอยู่ในความดูแลของบริษัทผู้พัฒนา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบเอง และไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานไอทีสำหรับดูแลเซิร์ฟเวอร์เพื่อมาดูแลในส่วนนี้
  5. ไม่เสี่ยงการเกิดเหตุการณ์ระบบหยุดทำงาน เพราะระบบจะถูกดูแลโดยบริษัทผู้พัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
  6. ระบบมีการอัปเดต เพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะทางธุรกิจอยู่เสมอ
  7. สะดวก และยืดหยุ่น เพราะจะมาพร้อมกับระบบที่สามารถใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต ทำให้เข้าถึงระบบได้จากอุปกรณ์ที่หลากหลาย และเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา

ข้อเสียของระบบแบบสำเร็จรูป

  1. เป็นระบบที่พัฒนาความสามารถแบบพื้นฐานไว้ ไม่ได้เจาะจงกับธุรกิจแบบใดแบบหนึ่งเป็นพิเศษ
  2. ธุรกิจจะต้องปรับขั้นตอนการทำงานให้เป็นไปตาม Flow หรือความสามารถของโปรแกรม ต้องใช้เวลาในการปรับตัวการทำงานให้เข้ากับระบบ
  3. ความสามารถบางอย่างของโปรแกรมอาจไม่คลอบคลุมกับความต้องการขององค์กร
  4. การขอแก้ไข ปรับเปลี่ยน หรือการปรับแต่ง (Customize) โปรแกรมเพิ่มเติม อาจเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ระบบแบบที่เขียนพัฒนาเอง คืออะไร?

โปรแกรมแบบที่เขียนพัฒนาเอง หรือ In-House Development คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ตามความต้องการของธุรกิจ มีกระบวนการสร้างระบบหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ ขั้นตอนการเก็บข้อมูลของลูกค้า วิเคราะห์ความต้องการ หรือ Requirement ของลูกค้า เพื่อนำไปวิเคราะห์ จากนั้นก็เริ่มพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้ได้ระบบที่ใกล้เคียงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าที่จะได้ส่งมอบระบบให้กับลูกค้าได้ใช้งานจริง

ข้อดีของระบบแบบที่เขียนพัฒนาเอง

  1. ระบบที่ได้ จะมีขั้นตอนการทำงานเป็นไปตามวิธีการดำเนินงานของธุรกิจ ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในปรับตัวที่นาน
  2. ระบบถูกพัฒนาและดูแลโดยทีมงานภายในองค์กร การแก้ไขปัญหาหรือการอัปเดตระบบสามารถทำได้รวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการที่เกิดขึ้นในทันที
  3. สามารถออกแบบหน้าตาของ User Interface (หน้าต่างการใช้งาน) อาทิ เมนู, ไอคอน, การจัดวาง ได้ตามความต้องการ

ข้อเสียของระบบแบบที่เขียนพัฒนาเอง

  1. จะใช้เวลาในการพัฒนาระบบที่นานจะต้องมีการเก็บข้อมูล วางแผนการพัฒนา การทดสอบระบบ และการอบรมการใช้งานจริง
  2. ในกระบวนการการเก็บข้อมูล และความต้องการ (Requirement) หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่ จะทำให้ระบบที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะตอบโจทย์การทำงาน และความต้องการของธุรกิจได้
  3. ใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
  4. โปรแกรมแบบเขียนพัฒนาเอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการติดตั้งระบบแบบ On-Premise หรือระบบจะตั้งอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของผู้ประกอบการเอง ทำให้จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลเซิร์ฟเวอร์
  5. ระบบที่ได้อาจจะไม่รองรับการทำงาน หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต และการอัปเดตระบบอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น

เน็กซัสฯ หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นตัวช่วย ให้ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง และเห็นถึงความแตกต่างระหว่างระบบ ทั้ง 2 แบบ แต่หากต้องการคำแนะนำ เน็กซัสฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ ด้านการให้คำปรึกษา และการวางระบบ SAP ERP แบบครบวงจร มากกว่า 25 ปี ยินดีที่จะให้คำแนะนำ และคำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจตั้งแต่ระดับ SME จนถึง ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ ที่มีความสนใจอยากจะใช้ระบบในการบริหารจัดการองค์กร

สามารถ ติดต่อขอรับคำปรึกษา, สอบถามราคา
หรือสนใจ Demo SAP ERP ได้ที่
โทร : 02-091-1900
Line OA : @nexus-sr.com
อีเมล : mkt.th@nexus-sr.com

Share the Post:

หัวข้อน่าสนใจ