Search
Search

บริหารธุรกิจด้วย NEXcloud ERP เพื่อเติบโตในยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน

เมื่อ SMEs กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่อยู่ในช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันมาทำธุรกิจSMEs กันอย่างมากขึ้น ซึ่ง SMEs เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือตามกำลังของผู้ประกอบการ แต่การทำธุรกิจนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด การที่จะทำให้ธุรกิจสำเร็จจะประกอบด้วยปัจจัยหลายๆอย่างรวมถึงกระบวนการในการบริหารขององค์กร อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจึงได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำธุรกิจด้วย NEXcloud ERP และการบริหารที่ดีอย่างไรที่จะสามารถช่วยตอบโจทย์ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ บทความนี้มีคำตอบให้กับผู้ประกอบการทุกท่าน

ทำไมธุรกิจ SMEs ถึงน่าสนใจ ?

เนื่องจากธุรกิจSMEs หรือที่เรียกว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมการบริหารจัดการภายในองค์กรจึงไม่มีความซับซ้อนมากนัก การดำเนินการและการควบคุมการทำงานจึงขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการโดยตรง อีกทั้งยังมีจำนวนพนักงานไม่มาก การเริ่มต้นทำธุรกิจจึงสามารถทำได้ง่าย และเนื่องจากธุรกิจSMEs มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการไม่สูงมาก จึงสามารถควบคุมให้อยู่ในขอบเขตของงบประมาณที่กำหนดไว้ได้

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้แนวโน้มธุรกิจSMEs เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคนส่วนใหญ่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการมากกว่าการที่จะเป็นลูกจ้าง แต่ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นของธุรกิจSMEs ในแต่ละปี ยังมีธุรกิจSMEs อีกจำนวนมากที่ลดลง สาเหตุหลักคือการขาดทุนและปิดกิจการลงไป ซึ่งเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดและอาจไม่ได้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญมากนัก แต่จะทำอย่างไรให้ธุรกิจออกมาประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูงคือความสำคัญในการบริหารธุรกิจในยุคนี้

การเริ่มต้นทำธุรกิจSMEs จะมีเกณฑ์การแบ่งประเภทของวิสาหกิจตามปัจจัยหลักๆอยู่ 2 ส่วนด้วยกันคือ  จำนวนการจ้างงาน และ จำนวนรายได้ โดยแบ่งเป็นวิสาหกิจขนาดย่อม และ วิสาหกิจขนาดกลาง สำหรับวิสาหกิจขนาดย่อมยังแบ่งเป็นวิสาหกิจรายย่อย และ วิสาหกิจขนาดย่อมโดยมีเกณฑ์การแบ่งดังนี้วิสาหกิจขนาดรายย่อยในภาคการผลิตและภาคการค้าและบริการ ต้องมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 5 คน และรายได้ ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดย่อม ในภาคการผลิตต้องมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน และรายได้ ไม่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนในภาคภาคการค้าและบริการต้องมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 30 คน และรายได้ ไม่เกิน 50 ล้านบาท เมื่อธุรกิจมีขนาดใหญ่จากวิสาหกิจขนาดย่อมก็จะกลายเป็นวิสาหกิจขนาดกลางซึ่งขึ้นอยู่กับกาารจ้างงานและรายได้โดยสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ในภาคการผลิตต้องมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 200 คน และรายได้ ไม่เกิน 500 ล้านบาท ส่วนในภาคภาคการค้าและบริการต้องมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 100 คน และรายได้ ไม่เกิน 300 ล้านบาท

ความสำคัญของธุรกิจ SMEs ต่อเศรษฐกิจไทย

ท่ามกลางแนวโน้มของธุรกิจในประเทศไทยหลังจากผ่านสถานการณ์โควิด-19 ที่คาดว่า SMEs จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเปลี่ยนการค้าโลก ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ว่า SMEs ได้เข้ามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจทั่วโลก โดยในบางประเทศ SMEs ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจหลักแล้ว และในประเทศไทย ภาครัฐบาลได้มีการเข้ามาสนับสนุนและส่งเสริมอย่างเต็มที่เพื่อพลักดันเข้าสู่เศรษฐกิจหลัก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ธุรกิจSMEs ช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคต่างๆ ทำให้ท้องถิ่นมีรายได้มากขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบในประเทศ ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือสามารถผลิตสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค

วิธีการบริหารธุรกิจ SMEs ให้ประสบความสำเร็จ
การบริหารธุรกิจSMEs ให้สำเร็จ ต้องอาศัยการวางแผนและระยะเวลา หากมีกลยุทธ์ที่ดีก็เปรียบเสมือนกับมีอาวุธที่สำคัญอยู่ในมือ และทำให้การเริ่มต้นธุรกิจขับเคลื่อนไปอย่างง่ายดาย หากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถรับมือได้และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด การวางแผนและการบริหารองค์กรจึงถือเป็นหัวใจหลักในการประกอบธุรกิจ การตั้งเป้าหมายโดยคิดว่าจะทำอย่างไรที่ทำให้ธุรกิจไปได้ไกลกว่าเดิม และเพื่อเป็นการต่อยอดของธุรกิจSMEs ในอนาคต จึงต้องมีเทคนิคในการบริหารด้วย 4 ข้อสำคัญคือ

1.) บริหารควบคุมต้นทุนเพื่อสร้างกำไร
 ในการประกอบธุรกิจการบริหารควบคุมต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดงบประมาณหรือค่าใช้จ่ายต่างๆให้มีความชัดเจนและเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงภาพรวมของต้นทุนทั้งหมด อย่างไรก็ตามการควบคุมต้นทุนให้ต่ำลงนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องลดคุณภาพของสินค้าหรือบริการตาม เนื่องจากคุณภาพของสินค้าหรือบริการที่ดีนั้นจะส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า กล่าวคือหากลูกค้ามีความประทับใจก็สามารถกลับมาซื้อหรือใช้บริการในธุรกิจของเราอีกครั้งทำให้เกิดกำไรหมุนเวียนในธุรกิจ

2.) บริหารจัดการคลังสินค้าอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่ในเรื่องของการขนส่งสินค้าซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด หากสามารถเช็กจำนวนสต๊อกทั้งหมด เช็กสถานะ หรือติดตามสินค้าภายในคลังได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะทำให้ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้และยังเป็นประโยชน์กับคลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่ ทำให้กระจายสินค้าได้ตลอดเวลาช่วยให้การจัดส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น

3.) บริหารการผลิตให้มีมาตรฐาน หากผู้ประกอบการสามารถดูแลควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมดได้ ตั้งแต่การวางแผนการจัดซื้อ วัตถุดิบต่างๆที่ใช้ในการผลิต จะทำให้วางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะหากรู้ว่าขั้นตอนไหนเกิดปัญหา ก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันที ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคำนวณปริมาณและตรวจสอบวัตถุดิบในการผลิตว่ามีคุณภาพหรือมาตรฐานมากเพียงพอหรือไม่

4.) บริหารการจัดการในองค์กร การที่ธุรกิจจะดำเนินการได้อย่างคล่องตัว การบริหารเป็นปัจจัยหลักในการที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต การทำงานภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันถือเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถทำให้มองเห็นภาพรวมของกระบวนการการทำงานของแต่ละฝ่ายได้อย่างชัดเจน ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้ภายใต้องค์กรเดียวกัน ซึ่งหากองค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงคาดการณ์สถานการณ์ทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็สามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตไปได้

NEXcloud ERP  โซลูชันบริหารธุรกิจบนคลาวน์ เป็นระบบ ERP ที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมี SAP Business One ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์มาตรฐานระดับโลกเป็นกลไกหลักในการทำงานมีเทมเพลตธุรกิจที่สามารถเลือกแพ็กเกจได้ตามความเหมาะสมของธุรกิจ ค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงในลักษณะ Subscription Model ไม่มีค่าฮาร์ดแวร์ ไม่มีค่าดูแลระบบ และไม่มีค่าอัปเกรดเดต ช่วยให้ควบคุมต้นทุนได้  ออกแบบมาเพื่อธุรกิจSMEs โดยเฉพาะ ออกแบบ ดูแล และวางระบบธุรกิจ โดย NEXUS บริษัทที่ปรึกษาโซลูชันธุรกิจ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 23 ปี และเชี่ยวชาญมากกว่า 10 อุตสาหกรรม

NEXcloud ERP ระบบบริหารจัดการธุรกิจบนคลาวด์ เชื่อมต่อกระบวนการทำงานของหน่วยงานต่างๆในองค์กรของคุณ ให้อยู่ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์รูปแบบธุรกิจไทย ทั้งโปรแกรมภาษี การวางบิล การจัดการเช็ค และการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ มาพร้อมชุดแบบฟอร์มเอกสารรายงาน และแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ ช่วยการตัดสินใจและบริหารธุรกิจของคุณ

Share the Post:

หัวข้อน่าสนใจ

dSURE Star

เน็กซัสฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล dSURE software จาก depa

skincare makeup oem cloud erp

ทำไมธุรกิจเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และ OEM ควรเลือกใช้ระบบ SAP Cloud ERP

Search
  • 00Days
  • 00Hours
  • 00Minutes
  • 00Seconds

Digital Transformation

dSURE Star

เน็กซัสฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล dSURE software จาก depa

skincare makeup oem cloud erp

ทำไมธุรกิจเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และ OEM ควรเลือกใช้ระบบ SAP Cloud ERP

Customer Story

โรงพยาบาลรวมใจรักษ์เพิ่มศักยภาพระบบ ERP – SAP Business One เชื่อมต่อค่าธรรมเนียมแพทย์ Doctor Fee เพิ่มความโปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Crown Seal PCL ยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจด้วย SAP Upgrade to RISE with SAP S/4HANA Cloud

Popular Contents

dSURE Star

เน็กซัสฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล dSURE software จาก depa

skincare makeup oem cloud erp

ทำไมธุรกิจเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และ OEM ควรเลือกใช้ระบบ SAP Cloud ERP

SAP Best Midmarket

เน็กซัสฯ คว้ารางวัลส่งคุณค่าแห่งปี Best Midmarket Partner จาก SAP