6 ประโยชน์ของ SAP S4HANA Cloud
ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ และเภสัชกรรม
ทำไมธุรกิจเคมีภัณฑ์ และ เภสัชกรรมต้องมีระบบ ERP
เพราะตั้งแต่การสร้างผลิตภัณฑ์ไปจนถึงห่วงโซ่อุปทาน ธุรกิจต้องการวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการติดตามข้อมูล และกระบวนการต่างๆ โซลูชัน ERP (Enterprise Resource Planning) ซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรองค์กร เหมาะอย่างยิ่งในกรณีนี้ เนื่องจากมีคุณสมบัติมากมาย เช่น การปฏิบัติตามกฎระเบียบ การมองเห็นห่วงโซ่อุปทาน การจัดการระดับสูง และการสนับสนุนการทำงานร่วมกัน สนับสนุนความคล่องตัวและความสามารถในการขยายขนาด และเป็นโซลูชันสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในโลกดิจิทัล และนี้คือ
6 ประโยชน์ของการเลือกใช้ระบบ ERP – SAP S4HANA Cloud
- การวิเคราะห์คุณภาพ การควบคุมคุณภาพเป็นส่วนสำคัญ ระบบ SAP S4HANA Cloud สามารถช่วยในการประมวลผลเป็นชุดตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ยังดูแลการควบคุมคุณภาพระหว่างห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้มั่นใจในมาตรการควบคุมคุณภาพ รวมถึงการติดฉลาก การปฏิบัติตามการจัดเก็บ และมาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากอุตสาหกรรมยามีการควบคุมอย่างเข้มงวด ระบบจึงดูแลข้อกำหนดและกระบวนการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับการตรวจสอบโครงการตาม GMP
- สถานที่จัดเก็บ สูตรยาทั้งหมดต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และยังเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์และการเก็บรักษา ระบบจะพิจารณาข้อกำหนดเหล่านี้และช่วยปรับแต่งความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญสำหรับแต่ละสูตรอย่างละเอียด
- ความราบรื่นในการดำเนินงาน ระบบช่วยในการปรับปรุงกระบวนการให้เป็นอัตโนมัติ เวิร์กโฟลว์ใหม่จะเข้าควบคุมงานที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากๆ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมในการทำงานราบรื่น และมีประสิทธิภาพในทุกฝ่าย ทำให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น
- ควบคุมต้นทุน ระบบสามารถตรวจสอบได้หลายแง่มุมของการทำงาน ทั้งการผลิตและการจัดการขององค์กร ซึ่งจะช่วยองค์กรลดต้นทุนได้ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ ลดเวลาการดำเนินงานโดยรวม และลดการสูญเสีย
- การตรวจสอบตามเวลาจริง ระบบบันทึกข้อมูลต่างๆ บนฐานข้อมูล SAP S/4HANA สามารถเรียกดูข้อมูลจากทุกระบวนการได้แบบเรียลไทม์ และสามารถจัดทำรายงานการปฏิบัติงานตามเวลาจริงได้ ผู้จัดการสามารถตัดสินใจได้ทันท่วงทีเกี่ยวกับกระบวนการที่สำคัญขององค์กร รวมถึงการวางแผนการดำเนินงานนอกสถานที่ และการลดความเสี่ยงในกระบวนการ
- ลดความซับซ้อนเพื่อลดรอบเวลา ระบบช่วยให้องค์กรสามารถระบุแนวโน้มของตลาด โดยใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงที่สนับสนุนโดยคุณสมบัติการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และความสามารถในการจำลองและคาดการณ์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ทำให้รอบเวลาของกระบวนการลดลง สามารถช่วยลดเวลาในการออกสู่ตลาด ระบบยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อปรับปรุงการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพของสินทรัพย์ และลดการทำงานซ้ำ ในขณะที่ยังคงดำเนินการได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ทำไมเคมีภัณฑ์และเภสัชกรรม ต้องก้าวสู่ Intelligent Enterprise จากการวิเคราะห์แนวโน้ม อุตสาหกรรมยา ในปี 2566-2568
ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรี ระบุว่า ในปี 2566-2568 คาดว่ามูลค่าจำหน่ายยาจะเติบโต 5.0-6.0% ต่อปี ส่วนหนึ่งมาจาก กำลังซื้อที่มีแนวโน้มขยับดีขึ้นตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการมากขึ้น ความต้องการบริโภคยามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว และหลังการระบาดรุนแรงของไวรัส COVID-19 ทำให้ความต้องการดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ผู้บริโภคมีการปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันมากขึ้น มีความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยาเสริมภูมิคุ้มกันหรือป้องกันโรค เช่น วิตามิน ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องดื่มเสริมโภชนาการ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยามีแนวโน้ม ที่จะเพิ่มไลน์ธุรกิจผลิต หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้น
ซึ่งแนวโน้มด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก็มีการเพิ่มศักยภาพการผลิตและการเข้าถึงยาของผู้บริโภค อาทิ Artificial Intelligence และ Machine learning เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเร่งกระบวนการค้นคว้าและพัฒนายาให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเก็บ Big data และ Analytics ช่วยให้ผู้ผลิตได้รับข้อมูลเจาะลึกอย่างรวดเร็วในแต่ละขั้นตอนการผลิตยา การใช้ระบบปฏิกรณ์ชีวภาพ (Bioreactor systems) และการผลิตต่อเนื่อง (Continuous manufacturing process) ที่ใช้พลังงานต่ำ ช่วยทำให้ได้ผลผลิตสูง และลดปริมาณของเสียให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้ ส่งผลให้ธุรกิจเคมีภัณฑ์และเภสัชกรรม เผชิญกับการแข่งขันของอุตสาหกรรมยาที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจาก
- ไทยยังขาดศักยภาพในการผลิตยาที่จำเป็นจึงต้องพึ่งพาการนำเข้าเป็นส่วนใหญ่
- การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนรายใหม่จากต่างชาติ ซึ่งใช้ไทยเป็นฐานการผลิตยาเพื่อรองรับตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
- ภาระต้นทุนของผู้ผลิตยาในประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการเร่งปรับปรุงโรงงานผลิตยาให้ได้ตามมาตรฐาน GMP-PIC/S และราคายานำเข้า/วัตถุดิบยานำเข้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ด้วย ระบบ ERP – SAP S4HANA Cloud
ERP – SAP S4HANA Cloud นอกจากจะรวมซอฟต์แวร์ ERP เวอร์ชันล่าสุดจาก SAP ซึ่งมีแกนดิจิทัลที่ทันสมัยแล้ว ยังมอบเครื่องมือที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น
- SAP Business Technology Platform (BTP) แพลตฟอร์มที่รวบรวมแอปพลิเคชันระดับองค์กร อาทิ Database, Analytics, Application Development and Integration และ Intelligent Technologies หรือเทคโนโลยีอัจฉริยะ อย่าง ปัญญาประดิษฐ์ AI, iRPA, Automation และ IoT
- SAP Business Network Starter Pack ชุดฟังก์ชันที่ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับคู่ค้า หรือ Network Provider ต่าง ๆ
- Ariba Network – มาร์เก็ตเพลสบนคลาวด์ขนาดใหญ่ เข้าถึงเครือข่ายของหน่วยงานจัดซื้อจำนวนมาก
- Asset Intelligence Network – เครือข่ายธุรกิจบนคลาวด์ในการบริหารสินทรัพย์ สามารถเชื่อมต่อกับเจ้าของสินทรัพย์ ผู้ผลิต ผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้ให้บริการ แบ่งปันข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Logistics Business Network – เครือข่ายโลจิสติกส์แบบเปิด ทำให้การขนส่งระหว่างบริษัทง่ายขึ้นด้วยการทำงานร่วมกันและข้อมูลเชิงลึก จัดการการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Business Process Intelligence (BPI) เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถด้วยเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ตั้งแต่ Excel ไปจนถึง Big Data
ทำไมถึงต้องเลือก NEXUS เป็นปรึกษาในการวางระบบ SAP S/4HANA Cloud
- เพราะเน็กซัสฯ นำเสนอโซลูชันพร้อมใช้ตามความต้องการทางธุรกิจแบบครบวงจร
- เน็กซัสฯ เป็น SAP Partner ในระดับ Gold Partner มีผู้เชี่ยวชาญบริการให้คำปรึกษา และวางระบบ SAP S/4HANA Cloud
- ให้บริการแบบ End-to-End ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางธุรกิจไปจนถึงการดำเนินการวางระบบ และ Maintenance Support โดยทีมงานมืออาชีพ และมีประสบการณ์
- พร้อมมีโซลูชัน และบริการเสริมพิเศษที่สนับสนุน การทำงานเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Social Media, E-Commerce, Marketplace, POS, QR Code, RFID, Sensor, E-Tax, E-Filing, ขนส่ง, ธนาคาร รวมถึงอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ เป็นต้น
- ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และได้รับใบรับรองจาก SAP Global Certification
- มีประสบการณ์มากกว่า 26 ปี
- มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 10 อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจการจัดจำหน่าย ธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง และธุรกิจการให้บริการ
โดย NEXUS ได้ประสบความสำเร็จในการวางระบบ SAP S/4HANA Cloud ให้กับลูกค้าในธุรกิจเคมีภัณฑ์มาแล้ว อาทิ SOUTH CITY GROUP
สามารถ ติดต่อขอรับคำปรึกษา, สอบถามราคา
หรือสนใจ Demo ได้ที่
โทร : 02-091-1900
Line OA : @nexus-sr.com
อีเมล : mkt.th@nexus-sr.com