ในการทำธุรกิจ บริษัทต่าง ๆ ต้องการเหนือคู่แข่งอยู่เสมอ หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญคือการเริ่มต้นจากภายในองค์กร การปรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพพร้อมแข่งขัน ลดข้อผิดพลาดระหว่างทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว หลาย ๆ องค์กรทั่วโลก จึงเลือกใช้ซอฟต์แวร์ ERP ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ทำให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมของบริษัทได้ทุกส่วน ตั้งแต่การบัญชี การขาย การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ การผลิตและสินค้าคงคลัง ไปจนถึงธุรกรรมทั้งหมด ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มได้แม่นยำ แก้ปัญหาได้ทันเวลา ดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่สะดุด
ปัจจุบัน ตัวเลือกผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ERP มีทั้ง Global ERP ที่เป็น ERP ต่างชาติ เช่น SAP ERP ที่ใช้เงินลงทุนสูง เป็นระบบ ERP มาตรฐานระดับโลก และ Local ERP ซอฟต์แวร์ ERP ท้องถิ่นแบบพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ ที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ทำให้การเลือก ERP ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว แล้วธุรกิจคุณควรลงทุนแบบใด การลงทุน SAP คุ้มหรือไม่ NEXcloud จะพาไปหาคำตอบ
ทำความรู้จัก SAP ERP
SAP หรือ System Application products เป็น Global ERP ระบบ ERP สัญชาติเยอรมนี เกิดขึ้นจากการรวมตัวของอดีตพนักงานบริษัท IBM ก่อตั้งที่ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 1972 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Walldorf ประเทศเยอรมัน ปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
ในปี 1989 SAP ได้จัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจําภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นการขยายตัวทางธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศแถบแปซิฟิก ปัจจุบันมีสำนักงาน 11 แห่งใน 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
SAP นับว่าเป็นซอฟต์แวร์ ERP สำเร็จรูประดับชั้นนำ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย เนื่องจากมีเครือข่ายลูกค้า คู่ค้า พนักงานกระจายอยู่ทั่วโลก และมีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทที่ใช้ SAP Business One มากกว่า 70,000 บริษัท ในมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
Local ERP คืออะไร
Local ERP เป็นซอฟต์แวร์ ERP ที่พัฒนาขึ้นเอง โดยบริษัทเอกชน หรือ Vendor ภายในประเทศ หรือที่เรียกว่า Custom Developed ERP นั่นเอง ข้อดีของ Local ERP หรือ ERP แบบพัฒนาขึ้นมาใหม่ คือผู้พัฒนาสามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้เข้ากับความต้องการของธุรกิจแต่ละรายได้อย่างอิสระ อาจมีความเข้าใจความต้องการของการทำธุรกิจในพื้นที่ได้ดีกว่า และต้นทุนการติดตั้งระบบจะน้อยกว่า Global ERP แต่ข้อเสียของ Local ERP ที่ต้องระวัง ก็คือความมั่นคงของบริษัทผู้พัฒนา มีการพัฒนาระบบต่อเนื่องหรือไม่ หรือรองรับการเติบโตในอนาคตได้หรือไม่
ความแตกต่างระหว่าง SAP ERP (Global ERP) และ Local ERP
1. ประสบการณ์ในอุตสาหกรรม
SAP เป็นผู้นำตลาดในโซลูชันซอฟต์แวร์ ERP ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน มีลูกค้ากระจายตัวในทั่วโลก ทำให้มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงมี Customer Referrence และ Best Practice ในหลากหลายประเภทธุรกิจและอุตสาหกรรม มีมาตรฐานการทำงานที่ตอบโจทย์และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
Local ERP หรือระบบ ERP ที่พัฒนาขึ้นเอง อาจมีฐานลูกค้าที่จำกัด ประสบการณ์และความเข้าใจในธุรกิจอาจยังไม่ครอบคลุม อาจใช้เวลานานขึ้นในการพัฒนาฟังก์ชันใหม่ เป็นผลให้ผู้ใช้อาจสูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขันได้
2. การอัปเดตเทคโนโลยี
ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจำเป็นจะต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและปรับตัวให้ทันอยู่เสมอ SAP ในฐานะผู้นำโซลูชัน ERP ชั้นนำ จึงลงทุนอย่างสม่ำเสมอในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใหม่ ๆ เพื่อทำให้ระบบสามารถแข่งขันในตลาดได้ในอนาคตได้อยู่เสมอ
ในขณะที่ โซลูชัน Local ERP ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า ผู้พัฒนา ERP นั้น ๆ มีอำนาจลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากน้อยเพียงใด บ่อยแค่ไหน มีการอัปเดตหรือมีการใช้เทคโนโลยีใหม่หรือไม่ หากผู้พัฒนา ERP ไม่มีการอัปเดตอยู่เสมอ จะทำให้ลูกค้าติดอยู่กับเทคโนโลยีที่ล้าสมัย
3. ความสามารถในการขยายระบบ
เมื่อธุรกิจขยายตัว ความต้องการของธุรกิจก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่ง SAP ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายขนาดหรือการขยายตัวของธุรกิจ สามารถรองรับจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้น ฟังก์ชันการทำงานใหม่ ๆ ที่ธุรกิจต้องการ มี ERP หลายระดับที่ตอบโจทย์ตั้งแต่ SMEs ไปจนถึงระดับ Enterprise ได้
ในส่วนของ Local ERP มักจะมีข้อจำกัดในการขยายศักยภาพของระบบที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจ อาจเกิดได้จากการที่ระบบไม่มีฟีเจอร์ที่รองรับความต้องการธุรกิจ ต้องใช้เวลานานในการพัฒนาเพิ่ม หรือผู้พัฒนาไม่มีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่รองรับ ทำให้ต้องมองหาระบบใหม่เพื่อจะสนับสนุนธุรกิจที่เพิ่มขึ้นแทน
4. ความเสี่ยง
SAP เป็นผู้นำของโลกในด้าน ERP และเทคโนโลยีโซลูชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SAP Business One ที่มีลูกค้ามากกว่า 70,000 รายทั่วโลก เป็นผู้พัฒนา ERP ที่มีความมั่นคงสูง และยังมีฐานพันธมิตรขนาดใหญ่ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและมีความมั่นคงสูง
ในขณะที่ Local ERP ซึ่งเป็นนิติบุคคลขนาดเล็กกว่า อาจเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจ เช่น การขาดทรัพยากร ความไม่มั่นคงทางการเงิน ฯลฯ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพการบริการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
5. ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลง
ความสามารถในการใช้งานและการปรับแต่งที่ง่ายถือเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญในการเลือกซอฟต์แวร์ ERP ซึ่ง SAP อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับแต่งฟิลด์ แก้ไขแบบฟอร์ม และแม้แต่อัตราแลกเปลี่ยนตามความต้องการทางธุรกิจ ทำให้ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนโซลูชันตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลง
ในขณะที่ Local ERP ซึ่งเป็น ERP พัฒนาใหม่ อาจมีข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนฟีเจอร์การทำงานต่าง ๆ ไม่คล่องตัวเท่ากับ Global ERP ที่ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เร่งด่วนทางธุรกิจได้
จะเห็นว่าการเลือกโซลูชัน Local ERP ที่พัฒนาขึ้นเอง แม้จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า เข้าใจธุรกิจในพื้นที่ได้ดีกว่า แต่ก็อาจไม่รองรับการแข่งขันและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว ในขณะที่ SAP ERP ซึ่งเป็น ERP ที่แม้จะมีต้นทุนที่สูง แต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะระบบมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความยืดหยุ่น รองรับการขยายตัวของธุรกิจได้ดี และมีประสิทธิภาพพร้อมแข่งขันในอนาคต
แม้ว่า SAP ERP จะเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ใช้เงินลงทุนสูงเช่นเดียวกัน อาจเป็นข้อจำกัดของธุรกิจ SMEs หรือ ธุรกิจขนาดเล็ก-ขนาดกลาง แต่ในปัจจุบัน SMEs ก็สามารถใช้ระบบ SAP ERP ในราคาเอื้อมถึงได้ ด้วย SAP Business One Cloud
SAP Business One หรือ SAP B1 คืออะไร ?
โซลูชัน ERP Software เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ช่วยในการบริหารและควบคุมโหมดการทำงานในธุรกิจด้วยการประสานข้อมูลในส่วนต่างๆรวมเข้าด้วยกัน ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นชัดถึงภาพรวมใหญ่ของการดำเนินการ และนำข้อมูลจากฝ่ายต่างๆ ไปใช้ในการตัดสินใจ เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน สร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทำให้การดำเนินธุรกิจทำได้ง่ายขึ้น โปร่งใส และเชื่อมต่อได้กับทุกแผนก ทั้งด้านการผลิต ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านการเงิน การบัญชี การจัดซื้อ สินค้าคงคลัง ด้านการขายและการบริการ รวมถึงด้านบริหารจัดการโครงการ (เรียนรู้ เกี่ยวกับ ERP – SAP Business One เพิ่มเติม คลิกที่นี่!)
ทำไมถึงต้องเลือก SAP Business One กับ NEXUS
เน็กซัสฯ นำเสนอโซลูชันพร้อมใช้ตามความต้องการทางธุรกิจแบบครบวงจร โดยเน็กซัสฯ เป็น SAP Partner ในระดับ SAP Gold Partner มีผู้เชี่ยวชาญบริการให้คำปรึกษา และวางระบบ SAP Business One (SAP B1) แบบครบวงจร มากกว่านั้นยังมีโซลูชันและบริการเสริมพิเศษที่สนับสนุน การทำงานเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Social Media, E-Commerce, Marketplace, POS, QR Code, RFID, Sensor, E-Tax, E-Filing, โลจิสติกส์, ธนาคาร รวมถึงอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ เป็นต้น
