Search
Search

กลยุทธ์ การจัดการซัพพลายเชน ยุคใหม่ ปลดล็อกห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแพลตฟอร์ม Supply Chain

กลยุทธ์ การจัดการซัพพลายเชน ยุคใหม่ ปลดล็อกห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแพลตฟอร์มซัพพลายเชน

 

หลังจากเกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก ตระหนักถึง ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน หรือ Supply Chain Risk ที่จะส่งผลต่อการเติบโตของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจต่าง ๆ จึงเริ่มมองหาแนวทางการรับมือ โดยการหากลยุทธ์​​การจัดการซัพพลายเชนใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น คล่องตัวให้กับธุรกิจ เช่น เพิ่มทางเลือกในการสั่งซื้อวัตถุดิบและเพิ่มช่องทางการขนส่งโดยการเพิ่มแหล่งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายวัตถุดิบ, กระโดดเข้าสู่ออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ผ่าน E-Commerce หรือ E-Marketplace เป็นต้น

การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการซัพพลายเชน ด้วยแพลตฟอร์มนั้นมีความสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจโดยรวมมาก การศึกษาโดย Bank of America Global Research ซึ่งอ้างโดย Reuters พบว่ามีการพูดถึง “ซัพพลายเชน” เพิ่มขึ้น 412% ในรายงานผลประกอบการไตรมาสสามในปีนี้ เมื่อเทียบกับปี 2020

 

การจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management)

 

การจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management) คือ ระบบการบริหารจัดการและเชื่อมโยงเครือข่าย ตั้งแต่ ซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย โดยมีการเชื่อมโยงระบบข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบ สินค้าและบริการ ต้นทุน การส่งมอบ เป็นต้น เพื่อส่งมอบสินค้าหรือให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งได้ตรงตามเวลาและความต้องการ

การใช้ AI เพื่อการตัดสินใจเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการบริหารจัดการ Supply Chain เนื่องจากในยุคปัจจุบัน การเชื่อมโยงกระบวนการทางธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบริษัทเดียวอีกต่อไป แต่จะมีลักษณะที่เป็นเครือข่าย (Network Relation) เป็นการเชื่อมโยงระบบการทำงานข้ามบริษัทจนกลายเป็นการทำงานในลักษณะของ Supply Chain Management เชื่อมโยงกิจกรรมทางธุรกิจตั้งแต่ Suppliers ไปจนถึง Consumer

โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์ วางแผน สนับสนุนในการตัดสินใจ และการบริหารจัดการ เช่น การวางแผนการจัดหาหรือสั่งซื้ออัตโนมัติ การบริหารจัดการการผลิตแบบเรียลไทม์ การบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การติดตามการขนส่งที่แม่นยำ การส่งมอบสินค้าและบริการที่ตรงเวลา การติดตามข้อมูลและเอกสาร เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมทั้งสามารถการคาดการณ์ความเสี่ยงต่างๆ ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

6 กลยุทธ์การจัดการซัพพลายเชน

 

  1.) เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ตลอดทั้งระบบการจัดการ Supply Chain ต้องมีข้อมูลที่อัปเดตและเรียกดูได้แบบเรียลไทม์

2.) ควบคุมการไหลของห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการลูกค้า เช่น สินค้าถูกต้อง ตรงตามความต้องการ และตรงเวลา เป็นต้น

3.) ใช้การขนส่งแบบ Cross-Docking เพื่อลดเวลาการเก็บสินค้าไว้ในคลัง โดยใช้คลังสินค้าเป็นเพียงจุดกระจายสินค้าไปยังลูกค้าแต่ละราย จำนวนที่เข้าเท่ากับจำนวนที่ออกตามความต้องการของลูกค้าSAP Business One มี Business Process ที่มีมาตรฐานระดับสากล และมีเสถียรภาพสูง พัฒนาโดย SAP บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สัญชาติเยอรมัน เป็นที่ยอมรับมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอีกทั้งยังรองรับทางการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและธุรกิจให้ทันต่อสถานการณ์

4.) ใช้การขนส่งแบบ Direct ส่งถี่ ส่งตรง ส่งน้อย เป็นการลด Lead Time โดยใช้วิธีการส่งที่บ่อยขึ้น และส่งในจำนวนที่น้อยตามความต้องการของลูกค้า ไม่ต้องรอออเดอร์ขนาดใหญ่ถึงส่ง เพื่อเป็นการลดการรอคอยและการจัดเก็บสต๊อกในปริมาณที่มาก

5.) ลดจำนวนสต๊อกสินค้าทั้งห่วงโซ่อุปทาน โดยการวิเคราะห์สต๊อกร่วมกัน แบบ Just-in-Time เป็นการบริหารซัพพลายเชนที่ไม่ใช่การบริหารเฉพาะในองค์กรตัวเอง แต่ทำพร้อมกันทั้งระบบ เพื่อไม่เป็นการผลักภาระสต๊อกสินค้าไปยังซัพพลายเออร์ หรือ ผู้แทนจำหน่ายสินค้า เพราะหากบริหารเฉพาะในองค์กร ภาพรวมของสต๊อกสินค้าทั้งซัพพลายเชนจะไม่ได้ลดลง เพียงแต่ถูกผลักภาระไปที่อื่นแทน

6.) ลดค่าใช้จ่าย โดยเน้นการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบหรือสินค้าที่มีคุณภาพอย่างคุ้มค่าที่สุดในเวลาที่เหมาะสม ช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจ

ซึ่งใน 6 กลยุทธ์ของการจัดการซัพพลายเชน ธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกปรับได้ตามความเหมาะสม และข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการ ซึ่งจะสามารถทำให้ช่วยตอบโจทย์การจัดการได้เป็นอย่างดี

 

ปลดล็อกห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแพลตฟอร์มซัพพลายเชนแบบครบวงจรของ Blue Yonder

 

Blue Yonder ผู้นำด้านระบบ Supply Chain Planning Solution 2021 จัดอันดับโดย Magic Quadrant ของ Gartner เป็นซอฟต์แวร์ซัพพลายเชนอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Machine Learning สามารถวางแผน บริหารจัดการ คาดการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น พร้อมเสนอคำแนะนำสำหรับการปรับเปลี่ยนแผนและการบริหารจัดการ Supply Chain ของธุรกิจทุกส่วนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ

Blue Yonder มี Luminate Platform ซึ่งเป็นระบบวางแผน การจัดการ Supply Chain ที่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบดิจิทัล ช่วยให้แบรนด์ระดับโลกสามารถใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นในซัพพลายเชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการบูรณาการ ประมวลผล และดำเนินการ โดนให้มุมมองธุรกิจแบบ End-to-End เพื่อวางแผนเชิงรุกและมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับลูกค้าของทุกธุรกิจ

 

Luminate Platform ของ Blue Youder

 

ด้วยความสามารถของแพลตฟอร์ม Luminate สร้างระบบที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้ขอบเขต ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ซึ่งขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) แพลตฟอร์ม Luminate ช่วยให้บริษัทต่างๆ มองเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์และความเชื่อมโยงอย่างถูกต้องทั่วทั้งเครือข่ายแบบครบวงจร ความสามารถในการระบุข้อผิดพลาดแบบเรียลไทม์ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างประสิทธิภาพ และสร้างการตอบสนองทันทีอย่างอัตโนมัติได้ช่วยให้ลูกค้า Blue Yonder จำนวนมากสามารถควบคุมความไม่แน่นอนในปัจจุบันได้

 

พลัง AI แบบตอบสนองเชื่อมโยงทั่วทั้งระบบ

ด้วยระบบสมดุล แพลตฟอร์ม Luminate มีประสิทธิภาพการทำงานที่สร้างการตอบสนองแบบประสานสอดคล้องกันและกัน ทำให้องค์กรมองภาพโดยรวมของซัพพลายเชนได้

จากกรณีศึกษา เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือ การพลาดการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว แพลตฟอร์ม Luminate จะดำเนินการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองอัตโนมัติ ต่อข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปทั่วทั้งระบบเครือข่าย

แพลตฟอร์ม Luminate ช่วยการวางแผนการจัดหาและเติมเต็มของสินค้าคงคลังให้สมดุล โดย Luminate Control Tower ซึ่งคอยตรวจสอบซัพพลายเชนแบบ end-to-end อย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์เพื่อหาข้อผิดปกติ สามารถระบุการส่งมอบที่มีโอกาสพลาด โดย AI ของระบบจะวางแผนการจัดหา เพื่อเติมเต็มช่องว่างของอุปทาน รวมถึงการระบุซัพพลายเออร์รายอื่นและสินค้าคงคลังส่วนเกินทั่วทั้งเครือข่าย ด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ AI จะชั่งน้ำหนักต้นทุนและการแลกเปลี่ยนบริการ ของแต่ละตัวเลือกโดยอัตโนมัติ โซลูชันนี้จะสร้างแบบจำลองเครือข่าย ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแผนใหม่จะบรรลุผลได้ รวมถึงโครงสร้างซัพพลายเชนในปัจจุบัน มีการกำหนดค่าเครือข่ายต่างๆ มากมาย เปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามความจำเป็น เพื่อจัดการช่องว่างการจัดหาชั่วคราวได้ เมื่อมีการกำหนดแผนใหม่ จะมีการสื่อสารแบบดาวน์สตรีมไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติและทันที

 

Blue Yonder เป็นที่ยอมรับของบริษัทชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยเองก็มีหลากหลายบริษัทชั้นนำที่ใช้โซลูชันของ Blue Yonder เข้ามาช่วยในการวางแผนและการบริหารธุรกิจ เช่น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยน้ำทิพย์ และ จำกัด บริษัท โดลไทยแลนด์ จำกัด เป็นต้น

Blue Yonder ครอบคลุมการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานทุกส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น

  • Sales & Operations Planning
  • Supply Planning & Replenishment
  • Production Planning
  • Merchandise Financial Management
  • Inventory Optimization
  • Network Designพร้อมทั้งรวม AI, ระบบอัตโนมัติ, อัลกอริทึมขั้นสูง, Big Data และการวิเคราะห์ เพื่อสร้างความสามารถอันทรงพลังในการวางแผนให้กับธุรกิจ ให้สามารถจัดการความซับซ้อนทางธุรกิจและตัดสินใจอย่างเหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ในรูปแบบที่คล่องตัว

ทำไมต้องเลือกวางระบบ Blue Yonder กับ NEXUS

เน็กซัสฯ เป็นพาร์ทเนอร์ของ Blue Yonder หนึ่งเดียวในประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 23 ปี โดยได้ให้คำปรึกษาช่วยพัฒนาระบบ และวางระบบซอฟต์แวร์ (SAP, Blue Yonder) และ Cloud Platforms (SAP, AWS, CSL) เพื่อเพิ่มศักยภาพสนับสนุนการบริหารธุรกิจยุคดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เน็กซัสฯ มีผลงานในการวางระบบซอฟต์แวร์ Blue Yonder ให้กับธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยอย่าง บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด และ บริษัท โดล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่

เว็บไซต์ www.nexus-sr.com
อีเมล mkt.th@nexus-sr.com
Line Official Account : @nexus-sr.com
โทรศัพท์ 02-091-1900

 

 

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ

 

Share the Post:

หัวข้อน่าสนใจ

dSURE Star

เน็กซัสฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล dSURE software จาก depa

skincare makeup oem cloud erp

ทำไมธุรกิจเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และ OEM ควรเลือกใช้ระบบ SAP Cloud ERP

Search
  • 00Days
  • 00Hours
  • 00Minutes
  • 00Seconds

Digital Transformation

dSURE Star

เน็กซัสฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล dSURE software จาก depa

skincare makeup oem cloud erp

ทำไมธุรกิจเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และ OEM ควรเลือกใช้ระบบ SAP Cloud ERP

Customer Story

โรงพยาบาลรวมใจรักษ์เพิ่มศักยภาพระบบ ERP – SAP Business One เชื่อมต่อค่าธรรมเนียมแพทย์ Doctor Fee เพิ่มความโปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Crown Seal PCL ยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจด้วย SAP Upgrade to RISE with SAP S/4HANA Cloud

Popular Contents

dSURE Star

เน็กซัสฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล dSURE software จาก depa

skincare makeup oem cloud erp

ทำไมธุรกิจเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ และ OEM ควรเลือกใช้ระบบ SAP Cloud ERP

SAP Best Midmarket

เน็กซัสฯ คว้ารางวัลส่งคุณค่าแห่งปี Best Midmarket Partner จาก SAP