การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics management) ที่ส่งผลต่อธุรกิจ
เป้าหมายของโลจิสติกส์ คือ การตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็วและคุ้มค่า การจัดการด้านโลจิสติกส์จึงเป็นการจัดการห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าความต้องการของลูกค้ามีความพึงพอใจกับการจัดการ และบริการ ซึ่งหากองค์กรมีการจัดโลจิสติกส์ที่ดี จะช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มความภักดี หรือ Loyalty Customer ของลูกค้า อีกทั้งสามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
รวม 6 เหตุผล ทำไมการจัดการโลจิสติกส์ (Logistics management) ถึงสำคัญต่อธุรกิจ
1.) ปรับปรุงประสิทธิภาพ องค์กรที่มีระบบการจัดการด้านโลจิสติกส์ สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าเข้า และออกจากธุรกิจได้จากระบบแบบเรียลไทม์ ทำให้องค์กรมีข้อมูลเพียงพอ เพื่อนำไปวิเคราะห์ วางแผนเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการการจัดส่ง และหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นได้ กลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ที่มีการวางแผนไว้อย่างดี สามารถช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้ เช่น มีการจัดตารางเวลาเข้าและออกอย่างมีกลยุทธ์ กำหนดวิธีการจัดส่งและเส้นทางที่ดีที่สุด เป็นต้น ทำให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นในส่วนอื่นๆ ได้ เช่น มาตรฐานการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นต้น
2.) มั่นใจได้ถึงการจัดส่งที่ราบรื่น กุญแจสำคัญในการส่งมอบสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ถูกที่ ตรงเวลา ซึ่งการจัดการอย่างมืออาชีพ จะช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่าการขนส่ง การจัดเก็บ และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และใช้วิธีการที่ดีที่สุด ทั้ง การบรรจุสินค้า และเส้นทางการขนส่ง
3.) กุญแจสู่ความสำเร็จในห่วงโซ่อุปทาน โลจิสติกส์เป็นองค์ประกอบสำคัญของห่วงโซ่อุปทานที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายและผลกำไรของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การขนส่ง คลังสินค้า และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้สามารถเพิ่มมูลค่าของธุรกิจและช่วยรักษาภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ รวมถึง รักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้
4.) มอบความพึงพอใจแก่ลูกค้าอย่างมีคุณภาพ ความพึงพอใจของลูกค้า เป็นแรงผลักดันหลักสำหรับห่วงโซ่อุปทาน องค์กรจึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยความต้องการของลูกค้าที่มีต่อธุรกิจประเภทซื้อ-ขาย เช่น มีความสะดวกสบายในการเลือกดูสินค้า มีตัวเลือกการชำระเงินที่ปลอดภัย การส่งมอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตรงเวลา เป็นต้น ลูกค้าที่พึงพอใจมีความสำคัญและช่วยกำหนดความสำเร็จที่แท้จริงของธุรกิจ สร้างกลยุทธ์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งช่วยให้บริการที่เหนือกว่าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
5.) โลจิสติกส์มีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท การจัดการที่ดีและแม่นยำ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ลูกค้า แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้านั้นๆ ได้อีกด้วย ยิ่งสินค้าเข้าถึงลูกค้าได้มากเท่าไร สินค้านั้นก็ยิ่งเพิ่มโอกาสขายได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการขนส่งที่ได้รับการปรับปรุงและการจัดการที่ดี จะทำให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้นอีกด้วย
6.) ปรับปรุงการจัดการคลังสินค้า การส่งออกสินค้าและการจัดเก็บสินค้า มีความเกี่ยวโยงกัน หากองค์กรมีการจัดที่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้การจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพตามไปด้วย เช่น การจัดส่งสินค้าได้ปริมาณมาก ทำให้คลังสินค้าเกิดพื้นที่ว่าง สามารถรับสินค้าได้มาก หรือ การจัดส่งสินค้าที่คำนึงถึงวันหมดอายุของสินค้า ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดสินค้าหมดอายุค้างสต๊อก เป็นต้น
ยกระดับการจัดการ ให้มีมาตรฐาน และแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยซอฟต์แวร์ หรือ โซลูชันการจัดการการขนส่ง TMS ของ Blue Yonder ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงการดำเนินการด้านการขนส่ง มองเห็นและสามารถควบคุมได้แบบ end-to-end และเรียลไทม์ เพื่อให้องค์กรมีข้อมูลในการตัดสินใจที่แม่นยำ สามารถนำไปวางแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งได้ พร้อมทั้งผสานรวมเครื่องมือซัพพลายเออร์และผู้ให้บริการขนส่ง ในขณะเดียวกันก็ให้ความยืดหยุ่น เพื่อรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การนำเข้า และวิเคราะห์ข้อมูลโลจิสติกส์
บริษัทส่วนใหญ่มีข้อมูลปริมาณล้นเหลือจนล้นหลาม ข้อมูลจะกระจัดกระจายไปตามแหล่งตามๆ ข้อมูลเหล่านี้จำเป็นต้องมีกระบวนการที่มีโครงสร้างเพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และนำไปประยุกต์ใช้ ข้อมูลที่เชื่อมโยงระหว่างส่วนต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกธุรกิจ การบริหารที่แม่นยำ รวมถึงความสามารถในการจัดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด อย่างคล่องตัวและถูกต้อง เมื่อเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น กลายเป็นความจำเป็นทางธุรกิจ นั่นหมายความว่า สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ทั่วทั้งระบบการจัดการซัพพลายเชน โลจิสติกส์แบบ end-to-end หรือแบบครบวงจรได้
การใช้ระบบช่วยนำเข้าและวิเคราะห์ข้อมูล สามารถแยกแยะระหว่างเงื่อนไขของซัพพลายเชน “ปกติ” และความผิดปกติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ไม่คาดฝันหรือการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ เมื่อคาดการณ์เหตุการณ์เหล่านี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้สามารถแก้ไขได้ในเชิงรุกก่อนที่จะส่งผลเสียต่อผลลัพธ์ทางการเงิน หรือความสัมพันธ์กับลูกค้า ระบบแปลงข้อมูลเป็นดิจิทัลทำให้บริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ ปริมาณข้อมูลใกล้เคียงเรียลไทม์จากทั่วทั้งระบบคู่ค้า ทั้งเครือข่ายและแหล่งข้อมูลที่สาม
คุณสมบัติที่สำคัญของระบบการจัดการโลจิสติกส์
- มีระบบคลาวด์สามารถมองเห็นข้อมูลแบบครบวงจร โดยดึงข้อมูลมาจากภายใน และแหล่งที่มาของคู่ค้า รวมถึงข้อมูลจากบุคคลที่สามได้
- รองรับการประสานงาน ห่วงโซ่อุปทานแบบ end-to-end ในเวลาใกล้เคียงเรียลไทม์ได้
- สามารถตอบสนอง ระบุข้อยกเว้น และเปิดใช้งานได้ตามข้อเท็จจริง
- ระบบ และโซลูชั่นสามารถผสานรวมกับห่วงโซ่อุปทานอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น
- สามารถเปิดใช้งานการวัดประสิทธิภาพข้อมูลและการปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง
Blue Yonder ระบบซอฟต์แวร์ TMS (Transformational management system)
- ระบบมีกระบวนการที่ยืดหยุ่น สามารถกำหนดค่าและการปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์
- ผู้ใช้งานเริ่มต้นด้วยการใช้งานที่ง่ายและรวดเร็ว
- มีฝ่ายสนับสนุนหลังการติดตั้งมากมาย
ทำไมต้องวางระบบ TMS ซอฟต์แวร์การจัดการ ด้านโลจิสติกส์ และการขนส่ง กับ NEXUS
- เพราะเน็กซัสฯ นำเสนอโซลูชันพร้อมใช้ตามความต้องการทางธุรกิจแบบครบวงจร
- เน็กซัสฯ เป็น Partner ของ Blue Yonder หนึ่งเดียวในประเทศไทย
- ให้บริการแบบ End-to-End ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางธุรกิจไปจนถึงการดำเนินการวางระบบ และ Maintenance Support โดยทีมงานมืออาชีพ และมีประสบการณ์
- พร้อมมีโซลูชัน และบริการเสริมพิเศษที่สนับสนุน การทำงานเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Social Media, E-Commerce, Marketplace, POS, QR Code, RFID, Sensor, E-Tax, E-Filing, ขนส่ง, ธนาคาร รวมถึงอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ เป็นต้น
- มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี
- มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 10 อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจการจัดจำหน่าย ธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง และธุรกิจการให้บริการ
- มีผลงานในการวางระบบซอฟต์แวร์ TMS จาก Blue Yonder ให้กับธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยอย่าง บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด
สามารถ ติดต่อขอรับคำปรึกษา, สอบถามราคา
หรือสนใจ Demo ได้ที่
โทร : 02-091-1900
Line OA : @nexus-sr.com
อีเมล : mkt.th@nexus-sr.com