ERP

3 วิธีการคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือ จากระบบ NEXcloud ERP

NEXcloud ERP กับการคำนวณต้นทุนสินค้าคงคลัง

การบริหารสินค้าคงคลังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายสินค้า ต้นทุนสินค้าคงเหลือมีผลโดยตรงต่อผลกำไรของบริษัท ดังนั้นการเลือกวิธีการคำนวณต้นทุนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ระบบ NEXcloud ERP powered by SAP Business One มีฟีเจอร์รองรับการคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือหลายวิธี ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกใช้แนวทางที่เหมาะสมที่สุดได้ โดยเน็กซัสฯ ขอเสนอ 3 วิธีหลักในการคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือ ได้แก่

1. วิธีเข้าก่อน ออกก่อน (First-in First-out; FIFO)
2. วิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนไหว (Moving-average method)
3. วิธีต้นทุนมาตรฐาน (Standard Cost)

1.วิธีเข้าก่อน ออกก่อน (FIFO)

หลักการของ FIFO เป็นแนวคิดที่ว่าสินค้าที่ซื้อเข้ามาก่อนจะถูกขายออกไปก่อน ซึ่งหมายความว่าสินค้าคงเหลือในคลังจะเป็นสินค้าที่รับเข้ามาล่าสุด ส่งผลให้ต้นทุนของสินค้าที่ขายจะอิงตามราคาของสินค้าชุดแรกที่ถูกซื้อมา

• ข้อดีของ FIFO
  เหมาะสำหรับธุรกิจที่สินค้ามีวันหมดอายุ เช่น อาหาร ยา และสินค้าอุปโภคบริโภค
  ทำให้มูลค่าสินค้าคงเหลือสะท้อนต้นทุนปัจจุบันได้ดีขึ้น
  ป้องกันปัญหาสินค้าล้าสมัย (Obsolescence)

ระบบรองรับการคำนวณต้นทุนแบบ FIFO โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าระบบให้บันทึกต้นทุนของสินค้าตามลำดับการเข้าคลัง และแสดงต้นทุนที่ถูกต้องเมื่อมีการขายสินค้า

2.วิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนไหว (Moving-average method)

หลักการของ Moving-average วิธีนี้จะคำนวณต้นทุนของสินค้าคงเหลือโดยใช้ต้นทุนเฉลี่ยของสินค้าทั้งหมดในคลัง เมื่อมีการซื้อสินค้าใหม่เข้ามา ระบบจะคำนวณต้นทุนเฉลี่ยใหม่ โดยถัวเฉลี่ยต้นทุนของสินค้าที่มีอยู่กับสินค้าที่เพิ่งซื้อเข้ามา

• ข้อดีของ Moving-average
  ลดความผันผวนของต้นทุนสินค้าคงเหลือ
  เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการซื้อสินค้าบ่อยครั้ง และราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงบ่อย
  ช่วยให้การบริหารต้นทุนทำได้ง่ายขึ้น

ระบบสามารถคำนวณต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนไหวได้โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการซื้อสินค้าหรือขายสินค้า ระบบจะปรับปรุงต้นทุนเฉลี่ยใหม่ทันที ทำให้ข้อมูลต้นทุนเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

3.วิธีต้นทุนมาตรฐาน (Standard Cost)

หลักการของ Standard Cost วิธีนี้ใช้ต้นทุนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นมาตรฐาน แม้ว่าราคาซื้อจริงอาจแตกต่างจากต้นทุนที่ตั้งไว้ บริษัทจะใช้ต้นทุนมาตรฐานนี้ในการบันทึกบัญชี ซึ่งสามารถปรับปรุงได้เป็นระยะ ๆ ตามสถานการณ์ทางธุรกิจ

• ข้อดีของ Standard Cost
  ทำให้การวิเคราะห์ต้นทุนและการตั้งราคาสินค้าทำได้ง่าย
  เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด เช่น อุตสาหกรรมการผลิต
  ช่วยให้การวางแผนงบประมาณและการควบคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบจะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดต้นทุนมาตรฐานของสินค้าแต่ละรายการได้ และสามารถเปรียบเทียบต้นทุนจริงกับต้นทุนมาตรฐานเพื่อวิเคราะห์ความคลาดเคลื่อนของต้นทุนได้อย่างแม่นยำ

NEXcloud ERP ระบบบริหารธุรกิจบนคลาวด์ ERP สามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังด้วยการคำนวณต้นทุนแบบ FIFO (เข้าก่อนออกก่อน), Moving Average (ต้นทุนเฉลี่ย) & Standard Cost (ต้นทุนมาตรฐาน) สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของธุรกิจ พร้อมทั้งสามารถปรับปรุงข้อมูลต้นทุนสินค้า และกำหนดหน่วยสินค้า (UOM: Unit of Measure) ได้อีกด้วย รวมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการเครื่องมือในการบริหารจัดการคลังสินค้าและการขาย ในราคาที่ย่อมเยา เพื่อธุรกิจขนาดเล็ก-ขนาดกลางโดยเฉพาะ

NEXcloud ERP คืออะไร?

คือโซลูชันบริหารจัดการธุรกิจบนคลาวด์ ERP (Enterprise Resource Planning) ที่เชื่อมต่อกระบวนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในองค์กรของคุณให้อยู่ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันได้อย่างลงตัว เรียกดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เหมาะสําหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยมี SAP Business One ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์มาตรฐานระดับโลกเป็นแกนหลักในการทำงาน ทาง NEXUS บริษัท ERP ที่ปรึกษาโซลูชันชั้นนำ ได้ออกแบบและพัฒนาเทมเพลตธุรกิจเพื่อให้ตอบสนองการทำงานและครอบคลุมไปยังหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบไปด้วยชุดแบบฟอร์มเอกสารรายงาน และข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์สำหรับการตัดสินใจ และบริหารธุรกิจของคุณ

ทำไมถึงต้องเลือก NEXUS ถ้าเป็นเรื่อง ERP

• เพราะเน็กซัสฯ นำเสนอโซลูชันพร้อมใช้ตามความต้องการทางธุรกิจแบบครบวงจร
• เน็กซัสฯ เป็น SAP Partner ในระดับ Gold Partner มีผู้เชี่ยวชาญบริการให้คำปรึกษา และวางระบบ ERP
• ให้บริการแบบ End-to-End ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางธุรกิจไปจนถึงการดำเนินการวางระบบ และ Maintenance Support โดยทีมงานมืออาชีพ และมีประสบการณ์
• พร้อมมีโซลูชัน และบริการเสริมพิเศษที่สนับสนุน การทำงานเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Social Media, E-Commerce, Marketplace, POS, QR Code, RFID, Sensor, E-Tax, E-Filing, ขนส่ง, ธนาคาร รวมถึงอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ เป็นต้น
• ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และได้รับใบรับรองจาก SAP Global Certification
• มีประสบการณ์มากกว่า 26 ปี
• มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 10 อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจการจัดจำหน่าย ธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง และธุรกิจการให้บริการ